เนื้อมะพร้าวมักไม่ค่อยนิยมใช้ในการประกอบอาหาร ยกเว้นแต่นำไปทำขนมหวานหรือไม่ก็เพื่อตกแต่งอาหารให้น่ารับประทาน แต่น้ำกะทิที่ได้จากมะพร้าว (ไม่ใช่น้ำมะพร้าว) ถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่สาคัญที่สุดในการประกอบอาหารไทย กะทิมักจะใช้ในการประกอบอาหารประเภทแกงต่าง ๆ, อาหารประเภทผัด (เช่น ผัดพริกแกง) และต้ม (เช่น แกงเขียวหวาน, ต้มข่าไก่) ในบางครั้งก็มีการใส่กะทิด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็ยังนิยมนำกะทิไปทำขนมไทยหลาย ๆ ประเภทอีกด้วย ความหวานของน้ำกะทิเป็นการผสมผสานของกลิ่นที่หอมหวนและรสหวานเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนน้ำตาล

“หัวกะทิ” คือน้ำกะทิที่ได้จากการคั้นมะพร้าวครั้งแรก เป็นกะทิที่มีความเข้มข้นสูงที่สุด นิยมใช้กับแกงที่ต้องการความเข้มข้นมากๆ หรือหยอดหน้าขนม, อาหาร “หางกะทิ” ได้จากการคั้นมะพร้าวครั้งที่ 2-3 มีปริมาณน้ำผสมอยู่มากกว่า ความเข้มข้นของกะทิจึงลดลง เอาไว้นำไปผสมในขนม, ทำแกงชนิดต่าง ๆ

แต่ปัจจุบันมีกะทิสำเร็จรูปมาช่วยเพิ่มความสะดวกและสะอาดปลอดภัยให้กับการทำอาหาร สำหรับ “อัมพวา”กะทิแท้ 100% จะเป็นหัวกะทิอยู่แล้ว หากต้องการใช้เป็นหางกะทิ ก็ให้นำกะทิไปผสมน้ำในอัตราส่วน 1 ต่อ 1